SF : In the Love 1 : HIDDLEWORTH

Standard

SF : HIDDLEWORTH

Story : In the Love 1

Pairing : Chris Hemsworth x Tom Hiddleston

 

 

 

ฟิคเรื่องนี้เป็นเพียงจิตนาการของผู้แต่ง

ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ตัวละครเสื่อมเสียใดๆทั้งสิ้น

อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะครับผม!

 และสำหรับแฟนคลับของคู่ ThorKi Hiddlesworth Eric x Hal

 อย่าลืมสนับสนุนนักเขียนหน้าใหม่คนนี้ด้วยนะครับ ^3^

wordpress : https://hiddlesworthnutty.wordpress.com

 

Twitter : https://twitter.com/Hiddleworth_nut

 

‘ตกงาน… เอาเถอะ สองคำนี้ได้ยินจนชินไปแล้ว’

คริส เฮมสเวิร์ธ หนุ่มนักร้องกล้ามโตกำลังนั่งอยู่ริมถนนด้านหน้าผับที่ตอนนี้เปิดแสงไฟสีสวยหน้าร้านประชันกับร้านอื่นเพื่อเรียกลูกค้ากันเต็มที่ สาวนุ่งน้อยห่มน้อยก็เริ่มทยอยกันออกมาจากในร้าน ซึ่งมันเป็นแรงจูงใจลูกค้าให้เข้าร้านอีกอย่างหนึ่ง เห็นสาวๆสวยๆหุ่นดีมายืนให้เลือกแบบนี้ใครบ้างจะไม่อยากเข้า เจ้าตัวจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เขาเพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงอาทิตย์นึงด้วยซ้ำ กลับโดนไล่ออกซะอย่างนั้นเขาไม่เคยทะเลาะกับลูกค้านะ ไม่เลยซักคนเดียว และเขามั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเสียงของเขาเพราะ จริงๆนะไม่ได้โม้ เคยมีแมวมองมาสอบถามเขาก็เยอะอยู่ ชวนไปออกเพลง ไปเป็นศิลปินกลุ่ม หรืออะไรต่างๆนาๆ เขาก็ปฏิเสธไปทันที ก็นะ… เขาชอบชีวิตปกติของเขาแบบนี้ ทำงานกลางคืน วันไหนทางร้านให้หยุดพักบ้างก็ออกไปใช้เงิน ท่องราตรีไปเรื่อย สนุกจะตายไป  แต่ทำไมเจ้าของร้านถึงต้องไล่เขาออกแบบนี้นี่มันร้านที่แปดในรอบสองเดือนของผู้ชายที่ชื่อ ‘คริส เฮมสเวิร์ธ’ แล้วนะที่ต้องหางานใหม่แถมเขายังมีแค่งานเดียวด้วยที่อยากทำ ถึงเขาจะจบมาด้านบริหารก็เถอะ ‘แต่เขาก็ยังไม่อยากจะละทิ้งชีวิตอิสระนี่’

มือหนายกขึ้นเสยเส้นผมสีทองยาวประบ่าของตนกลับขึ้นไปยังที่ของมัน ยิ่งคิดชายหนุ่มตัวโตก็ยิ่งกลุ้ม ยังดีที่เขามีบ้านให้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้จะนอนที่ไหนแน่ๆ ถึงถ้าอาจจะมีจริงๆส่วนมากเขาก็คงต้องเช่าห้องอยู่ เพราะพวกนักร้องตามผับอย่างเขาคงไม่ค่อยอยู่เป็นที่เป็นทางซักเท่าไหร่ ต้องย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ใกล้ที่ทำงานบ้าง บางคนไม่ได้รับงานแค่ร้านเดียวเสียหน่อย บางคนวันหนึ่งรับประมาณห้าร้านได้ถือว่าแม่งโคตรจะอึด เขาร้านเดียวก็จะแย่แล้วแต่เงินที่ได้ ‘ต่อวัน’ ก็สูงอยู่พอตัวไม่อย่างนั้นคงไม่พอยาไส้มาจนถึงทุกวันนี้แน่ๆ โดยเฉพาะคนอย่างเขา ‘ผู้ชายตัวโตอย่างกับหมีควายที่นั่งกลุ้มอยู่นี่’ แต่ถึงยังไงค่าใช้จ่ายมันก็สูงพอตัว ไหนจะค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าน้ำ-ค่าไฟ ก็พอๆกับมีบ้านหลังนึงนั่นแหละนะ  แต่ตอนนี้…

“ไม่มีงานแล้วจะเอาอะไรกินหละทีนี้!”

มือหนาเอื้อมไปจับสายกระเป๋าสีดำด้านที่ภายในบรรจุกีต้าร์ตัวเก่งของเขาขึ้นมาสะพายไว้ที่ด้านหลังนาบไปกับแผ่นหลังกว้าง สองขาแข็งแรงลุกขึ้นยืนทรงตัวซักพักเพื่อให้ร่างกายไม่เซล้มลงหน้าคะมำไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก ตาคมเหลือบมองไปซ้ายทีขวาที ตอนนี้มันก็ดึกมากพอสมควร ส่วนมากเขาไม่ค่อยสนใจเวลาในช่วงนี้ซักเท่าไหร่หรอกนะ เพราะเขาจะเล่นดนตรีอยู่ด้านในไม่เคยออกมานอกร้านจนกว่าจะเช้ามืดนู่น ประมาณตีห้าครึ่งของทุกๆวันไม่ขาดไม่เกินไปกว่านั้น = =

เข้างานตอนสี่ทุ่มตรง เลิกงานตีห้า เคลียร์เงินเสร็จก็เบ็ดเสร็จตรงเวลาตีห้าครึ่งเป๊ะทุกวัน ได้วันละห้าพันเป็นอย่างต่ำ ก็นะ… คนมันมีหน้าตาเป็นอาวุธวันหนึ่งมีสาวๆเข้ามาที่ร้านเป็นพรวน ผู้ชายที่อยู่ด้านนอกก็เห็นประจวบเหมาะที่จะมาจีบสาวๆพอดีเลยเข้ามาซะหน่อยเป็นอย่างนี้ยอดของทางร้านที่แทบจะล้มละลายกับกลายเป็นสูงปรี๊ดดด! ชนิดที่ว่า… ตอนนี้สั่งเฟอร์นิเจอร์เป็นทองได้เลย ‘รวยแล้วถีบหัวส่งกันเห็นๆ’

ตอนนี้เป็นเวลา 23:00 น.

นอกจากจะไม่มีรถแล่นไปมาแล้ว คนที่ปกติจะเดินไปเดินมากันตอนนี้กับไม่มีซักราย มีก็แค่ผู้หญิงตามผับต่างๆที่ยืนรอรับแขกอยู่หน้าร้าน วันนี้มันเป็นวันอะไรนะทำไมถึงไม่มีคนพลุกพล่านกัน สายตาสีฟ้าคนตวัดหันไปหาสาวนางหนึ่งที่อยู่หน้าผับร้านฝั่งตรงข้าม เขายิ้มหล่อละลายส่งไปให้เธอ เธอมองมาทางเขาก่อนจะกระดิกนิ้วชี้ไปมาเป็นเชิงว่า ‘มามะสุดหล่อ วันนี้ฉันจะบริการให้ถึงใจเชียว’ เขาก็อยากจะเข้าไปหาเธอนะ แต่ตอนนี้พี่ไม่มีมันนี่ให้น้องเลยเพราะพี่ต้องเก็บมันไว้ประทังชีวิตจะมาใช้อะไรที่สิ้นเปลืองก็ไม่ดีซักเท่าไหร่ ‘ไว้คราวหน้านะน้องสาว พี่คริสจะจัดให้ถึงใจเชียว’ ร่างสูงใหญ่ตัดสินใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง พยายามไม่สนใจเสียงต่อว่าจากเธอที่ดังมาเป็นระลอกราวกับเขาไปทำอะไรผิดมาตั้งมากมายอย่างนั้นและ! ขายาวพาตนมานั่งลงบนเก้าอี้สีขาวตัวยาวที่อยู่ใกล้ๆบ่อน้ำในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางเมือง มันรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เคยมานั่งในที่แบบนี้เลยซักครั้งจะว่าขี้เกียจหรืออะไรก็ช่าง แต่พอได้มานั่งจริงๆ มันทำให้รู้สึกร่างกายเราผ่อนคลาย ทั้งสายลมเย็นๆที่พัดมามันทำให้เขาลืมเรื่องที่กลุ้มใจไปปลิดทิ้ง มือหนาจับสายสะพายออกมาจากตัวก่อนจะเอื้อมไปเอากีต้าร์วางลงข้างตัวดีๆ

“คงต้องหางานใหม่ทำแล้วหละสิ ฉันคงต้องเอานายกลับเข้ากรุแล้วหละเพื่อนยาก” ตาคมหันไปมองที่กีต้าร์เล็กน้อย ปากหยักระบายยิ้มบางๆ คริสเป็นคนที่ชอบเล่นดนตรีมากกว่าสิ่งใดในโลก อาจจะชอบมากกว่าสาวๆสวยๆด้วยซึ่งข้อนี้เจ้าตัวก็ขอยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำ

ตาคมหันไปมองรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่เลย ‘ก็แน่หละ นี่มันก็ดึกมากแล้วคงไม่มีคนบ้าที่ไหนมานั่งเล่นให้ยุงกัดจนเป็นไข้เลือดออกหรอก = = ’

เขาอยากจะเล่นกีต้าร์แก้เครียดอีกซักหน่อย คงจะดีไม่น้อยถ้าไม่มีใครเห็นถึงเขาจะร้องเพลงตามผับ เปิดหน้าเปิดตาให้คนในร้านเห็นกันทั่วหน้า แต่ถ้าเอาเข้าจริงๆหละก็ เขาชอบเล่นกีต้าร์และร้องเพลงคนเดียวมากกว่า ฟังเอง ชอบเอง มันก็ยังดีกว่ามานั่งร้อง ยืนร้อง ให้คนอื่นมาวิจารณ์ตัวเขา บางทีเขาก็ได้ยินที่ลูกค้าผู้ชายบางคนพูดนะมันทำให้เขาหัวเสียมากจนไม่อยากจะทำอะไรเลยก็ว่าได้ ‘ตอนนั้นดีไม่ลงไปตบกระบาลซักฉาด แต่ก็อีกนะ… กลัวไม่มีงานทำไง’

ยังดีที่สวนสาธารณะแห่งนี้ไม่มีเวลาปิด ที่นี่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากที่คริสเดินผ่านสวนสาธารณะแห่งนี้ไปๆมาๆบ่อย ก็เห็นข้อดีของมันก็วันนี้แหละ ส่วนมากจะเห็นว่ามันน่าเบื่อมาก คนนั้นนอนจู๋จี๋กับแฟนสาว คนนู่นนั่งอ่านหนังสือ น่าเบื่อจะตายไปภาพแบบนี้ = =

ทางสวนสาธารณะจะใช้กล้องวีดีโอวงจรปิดที่ซ่อนเอาไว้ทุกๆที่ในการมองทุกๆบริเวณ ขนาดคนแคะขี้มูกยังเห็น อยากรู้ใช่ไหมว่ารู้ได้ยังไง? -..- คริสมีเพื่อนเป็นผู้รักษาความปลอดภัยของสวนสาธารณะแห่งนี้ มันทำให้เขารู้อะไรหลายๆอย่าง บางทีไอเพื่อนตัวแสบมันก็มักจะเอ่ยชวนเขามานั่งเล่นที่นี่บ่อยๆ และเขาก็รีบบอกปฏิเสธมันบ่อยๆเหมือนกัน เรียกว่า ‘แทบจะทุกครั้งเถอะ’ เคยพูดกับตัวเองเสมอมาเลยนะว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่เด็ดขาด  แต่… ตอนนี้เขาก็เข้ามาในที่แห่งนี้แล้ว มันไม่ได้ดูน่าเบื่ออย่างที่เขามองมันทุกๆวัน ไม่ต้องคิดเลยว่ามันจะสวยขนาดไหนในตอนกลางวัน กลางคืนยังตกแต่งไฟสะสวยขนาดนี้ กลางวันคงสวยอีกร้อยเท่าพันเท่า เพิ่งเห็นของดีของที่นี่ก็วันนี้แหละ

มือหนาเอื้อมไปรูดซิปกระเป๋าข้างตัวให้เปิดออก ก่อนจะหยิบกีต้าร์สีดำเงาตัวโปรดออกมาตั้งท่าเตรียมขยับนิ้วแกร่งลงบนเส้นสีเงิน ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเพื่อรวบรวมสติในการเล่น

นิ้วแกร่งขยับไปมาอย่างคล่องแคล่ว ปากหยักเริ่มเอ่ยคำร้องออกมาเมื่อถึงท่อนที่ต้องร้องเพลง คริสร้องเพลงไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จักเบื่อ ทั้งช้าบ้างเร็วบ้างสนุกบ้างเศร้าบ้าง ตามอารมณ์ของคนร้องไปเรื่อยๆอย่างมีที่สิ้นสุด อารมณ์ที่เคยบูด เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆอย่างกับคนก่อนหน้านี้กับตอนนี้เป็นคนละคนกันอย่างไรอย่างนั้น

.

มือเรียวเอื้อมมือหยิบหนังสือเล่มสุดท้ายขึ้นมาจากพื้นหญ้าที่ตนเองนั่งตั้งแต่สี่โมงเย็นเขาดันเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อย เลยมาตื่นเอาป่านนี้เขาก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมาเผลอหลับในที่แบบนี้ แถมนานเอาการเสียด้วย เฮ้อ… ถ้าปิดเทอมคราวนี้สงสัยต้องบอก ผอ. ลาหยุดซักเดือนซะแล้วสิเนี่ย ‘ทอม ฮิตเดิลสตัน’

ข้อมือบางถูกยกขึ้นมาอยู่ในระดับสายตา ดวงตาสีมรกตสวยเพ่งมองหน้าปัดนาฬิกาสีเงินเรือนโปรดของตน ยังดีที่ยังพอมีแสงไฟจากเสาไฟข้างๆพอส่องให้เห็นบ้าง ‘นอนนานขนาดนั้นเชียวหรือเรา..’ ตากลมโตเบิกกว้างเข้าไปอีก นี่เพลียขนาดนี้เชียวหรือเรา ปากบางยกยิ้มขำกับการกระทำของตนเอง

ร่างบางลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเป้สีน้ำตาลข้างตัวที่ภายในบรรจุไปด้วยหนังสือขึ้นบ่า มือเรียวข้างหนึ่งถือหนังสือเล่มหนาที่ตอนแรกเจ้าตัววางไว้ข้างๆขนาดหลับไป ขาเรียวพาตัวเองเดินไปยังประตูทางออก แต่หูเจ้ากรรมดันได้ยินเสียงทุ้มนุ่มน่าฟังกำลังร้องเพลงอยู่ที่ไหนซักแห่งของที่นี่ ขาเรียวหยุดชะงักลงในทันที ในตอนแรกก็คิดอยู่ว่าตนอาจจะหูฝาด ‘คงไม่มีคนบ้าที่ไหนมานั่งร้องเพลงในตอนกลางคืนดึกๆดื่นๆแบบนี้หรอก’ ขาเรียวที่กำลังจะก้าวขาออกไปอีกครั้งกลับหยุดชะงักจนเจ้าตัวแทบล้มหน้าคะมำ เฮ้อ! นี่ตกลงร่างกายใครมันเป็นคนสั่งการกันแน่ว่ะ สมองหรือกระดูกขา! ร่างบางถอนหายใจออกมาแรงๆอย่างขัดใจ เมื่อลองเงี่ยหูฟังดีๆแล้วเสียงที่ร้องเพลงอยู่นี่ก็ไม่น่าจะไกลจากที่เขายืนอยู่เท่าไหร่ ขาเรียวเปลี่ยนเป้าหมายในทันที ‘ก็กะว่าจะไปดูหน้าคนร้องหน่อยก็แค่นั้นเอง’ ร่างบางเดินไปตามเสียงทุ้มที่ยังร้องคงร้องเพลงออกมาต่อเนื่องไม่ขาด… ‘บางที เขาอาจจะกำลังกลุ้มใจอยู่ก็ได้หละมั้ง’

ขาเรียวของทอมรีบเดินไปยังแหล่งที่มาของเสียงแทบจะทันที ขาบางหยุดอยู่ตรงพุ่มไปเตี้ยๆตรงข้ามกับชายตัวโตที่นั่งดีดกีต้าร์เป็นทำนองเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมายของเพลง มีสะดุดบ้างบ้างช่วง แต่ก็ยังคงเริ่มเล่นใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ดวงตาสีมรกตตวัดไปมองที่ตาสีฟ้าสวยที่ตอนนี้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีดำ ‘คุณอาจจะกำลังเศร้า ผมอยากช่วยคุณจัง’ สายตาสีฟ้าที่ดูจะเหม่อลอยนั่นอีก ‘คงคิดมากอยู่แน่ๆเลยสินะ’ คนตัวบางขยับไปมาเมื่อยุงนับสิบที่เริ่มจะเข้ามากัดที่ผิวขาวๆของร่างบาง แต่มันก็ส่งผลตอพุ่มไม้เล็กๆที่ตนหลบอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ ตาเขียวสวยเบิกกว้างขึ้นอย่างทำอะไรไม่ถูก มือหนาที่กำลังจะเล่นเพลงใหม่กับหยุดชะงักลง ก่อนที่สายตาคมจะตวัดมายังต้นตอของเสียงที่นั่งหลบอยู่หลังพุ่มไม้เล็กๆนั่น

“เอ่อ… ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังคุณร้องเพลง ผมต้องขอโทษจริงๆ ถ้ามันทำให้คุณ เอ่อ… โกรธ ผมขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ”  ร่างเล็กรีบลุกออกมาจากพุ่มไม้เล็กๆนั่น ขาเรียวเล็กค่อยๆเดินเข้าไปหาอีกคนที่ยังคงนั่งมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่องอยู่ทีละก้าวอย่างระมัดระวัง ปากเรียวยกยิ้มหวานให้อีกฝ่ายอย่างรู้สึกผิด แต่ดูอีกฝ่ายคงไม่พอใจเขาเอาการ เห็นได้ชัดจากคิ้วสีทองของอีกฝ่ายที่ยังคงขมวดเข้าหากันแน่นตั้งแต่เขาค่อยๆเดินเข้ามาหาอีกฝ่าย คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากก็พอจะรู้ว่าคงโกรธเขาไม่น้อยเลย

“เหอะ อย่ามาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ”  ทอมอ้าปากค้างเมื่ออีกฝ่ายหาว่าเขาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ เขารีบเดินเข้าไปหาประชิดอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วพอๆซึ่งมันก็เร็วพอๆกับอารมณ์บูดๆของเขาในตอนนี้มากๆ

“ผมไม่ได้แก้ตัวนะครับ ผมแค่บังเอิญได้ยินก็เท่านั้น ดึกๆดื่นๆแบบนี้คนบ้าที่ไหนเขาจะมานั่งร้องเพลงกัน จริงไหมหละครับ?”  ปากบางร่ายยาวทันทีที่ร่างสูงตรงหน้าพูดจบมีพูดเหน็บไปบ้างให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้เขาโกรธอยู่ ซึ่งประจวบเหมาะเจาะกับที่คริสเก็บกีต้าร์เสร็จพอดี ร่างสูงค่อยๆหันมาหาไอคนตัวเล็กที่บังอาจมาว่าเขาว่าเป็นคนบ้า? ช้าๆ

“ว่าฉันบ้างั้นหรอห๊ะ! ไอเหม่ง! นายหนะสิบ้า! มาทำอะไรที่นี่ดึกๆดื่นๆ บ้านช่องไม่มีหรือไงถึงไม่ยอมกลับบ้าน ฉันแค่มานั่งร้องเพลง ที่นี่มันก็ไม่มีกฎบอกซักหน่อยว่าเวลากี่โมงถึงกี่โมงห้ามร้องเพลง! ป้ายก็บอกอยู่โต้งๆ ว่า สวน สา-ธา-ระ-ณะ!”  คำตอบที่ทำเอาร่างบางสะดุ้ง แขนเรียวบางยกขึ้นมากอดอกตัวเองเอาไว้แน่นๆอย่างข่มอารมณ์

“ก ก็…” เมื่อเห็นร่างบางที่อ้ำอึ้งพูดไม่ออกปากหยักก็ยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ดูก็รู้ว่าคนตรงหน้าพยายามข่มอารมณ์ตนเองเอาไว้อยู่ แบบนี้มันต้องแกล้งซักหน่อย แต่จะว่าไป คนตรงหน้าเขานี่ก็ดูดีเหมือนกันนะ ถึงจะดูจืดๆไปหน่อยก็เถอะ

“ก็อะไร? ไหนบอกมาสิ ว่าที่นี่มันมีกฎห้ามร้องเพลงเวลาไหนบ้าง?” แขนแกร่งยกขึ้นกอดอกมองคนตัวเล็กตรงหน้าบ้าง ขณะที่มองร่างตรงหน้าที่พยายามหาคำพูดมาเถียงเขา เขาเลยใช้จังหวะนี้ ใช้สายตาสำรวจอีกฝ่ายคร่าวๆสะเลย

ผมสีน้ำตาลเป็นลอนเล็กๆบวกกับปากเรียวเล็กสีชมพูน่ารักนั่นมันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ  รู้สึกเหมือน… อยาจูบ

ตาสีเขียวที่ตอนแรกตวัดขึ้นมามองเขาอย่างเดือดดาด แล้วก็เสหลบไปทันทีที่ด่าเขาจบ อย่างกับเขาไปพูดอะไรไม่เข้าหูอีกฝ่ายเข้างั้นแหละ เจ้าตัวถึงได้แสดงท่าทีโกรธเขาแบบเปิดเผยขนาดนี้ (นี่มั่นใจว่าแกไม่รู้ = =) ขนาดความสูงที่เกือบจะเท่าเขาแต่กลับดูตัวบางกว่า และดูเหมือนเจ้าตัวจะหุ่นดีเอาการเสียด้วย นายแบบหรือไง? แถมขนาดเสื้อที่อีกฝ่ายใส่ก็พอๆกับหญิงสาวหุ่นเพรียวคนหนึ่งเลย

“ก ก็ไม่มีหรอก ก็ผมแค่เห็นว่าเสียงคุณเพราะดีแค่นั้นเอง ไม่คิดว่าการที่เดินมาดูคุณจะทำให้คุณดูอารมณ์เสียขนาดนี้” จากหน้าหลังมือกลายเป็นหน้ามือเลยแหะ ฮ่าๆๆๆ เจ้าตัวสารภาพออกมาตรงๆเลยว่าชอบเสียงเขา ยิ่งเห็นแก้มที่เริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อน่ารักนั่นอีก มันทำให้คริสชายตัวโต ยิ่งอยากแกล้งอีกฝ่ายเข้าไปใหญ่ แต่ก็นะ… เดี๋ยวไอหน้าจืดนี่จะร้องไห้ขี้มูกโป่งเอาป่าวๆ หรือไอเจ้านี่มันจะเป็นแมวมอง!

“ขอบคุณที่ชม งั้นฉันก็ต้องขอโทษนายด้วยเหมือนกันที่ว่าอะไรนายไป แถมยังตะหวาดใส่อีก”  คริสยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มเล็กๆมาให้เขา มือหนายื่นไปข้างหน้าก่อนจะแนะนำตัว

“ฉันคริส คริส เฮมสเวิธร์”

“ผมทอมครัม โธมัส ฮิตเดิลสตัน ผมก็ต้องขอโทษคุณจริงๆนะครับ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้คุณอารมณ์ไม่ดี” มือบางยื่นมือไปจับกับมือหนาเบาๆก่อนจะผละออก คนตรงหน้านี่แม่งทำให้เขาอารมณ์ดีได้เฉยเลย! นางฟ้าหรือป่าวว่ะเนี่ย

“ฮ่าๆๆ ก็ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เอางี้ฉันไม่ได้อารมณ์เสียเพราะนายแล้วกัน จบนะ แล้วก็ไม่ต้องพูดเป็นทางการกับฉันหรอกนะ มันระคายหู เพราะฉันก็ไม่ใช่คนที่พูดภาษดอกไม้เท่าไหร่ด้วย” วันนี้ดูพูดมากเป็นพิเศษว่ะ ‘คริส เฮมสเวิร์ธ’

“ฮ่าๆๆ โอเคครับ คริส” ร่างบางยิ้มหวานส่งไปให้อีกครั้ง ตากลมสวยเหลือบมองไปเห็นกระเป๋ากีต้าร์ข้างหลังแล้วนึกอะไรบางอย่างออกขึ้นมาทันที ที่จริงตอนอยู่ตรงพุ่มไม้นั่นก็คิดอยากจะเดินมาถามอีกฝ่ายอยู่เหมือนกัน บางทีถ้าอีกฝ่ายต้องการงานเสริม เขาอาจจะหางานให้อีกฝ่ายทำได้

“คุณ… เอ่อ คริสนายชอบเล่นดนตรีใช่ไหม?” เกือบจะพูดเป็นทางการอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นตาคมที่ส่งสายตาดุๆมาให้เลยต้องรีบเปลี่ยนสรรพนามทันที

“อื้ม มากเลยหละ มีอะไร?” คริสเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถามอีกฝ่าย ถ้าแมวมองจริงๆ ทำไมไม่เห็นเหมือนคนก่อนๆที่ผ่ามมาหละ – – แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนตรงหน้านี่เหมือนนางฟ้า ส่วนพวกนั้นมันนางมารชัดๆ ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่ตอนแรกดูจะไม่ค่อยพอใจที่เขาว่าไป กลับกลายเป็นตอนนี้พูดดีกับเขาขึ้นเรื่อยๆ มันทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นคนที่พิเศษเลยแหะ

ปากบางเม้มเข้าหากันเล็กน้อย คิดอยู่ชั่วครู่ว่าจะพูดมันออกไปดีไหม? กลัวว่าอีกฝ่ายจะขำแล้วเดินหนีไปเนี่ยสิ เฮ้อ… แต่บางอย่างไม่ลองไม่รู้หรอกเนอะ ต้องลองพูดดู!

“คือเอ่อ… ถ้าไม่รังเกียจ ไปทำงานกับฉันไหม? แบบรับจ๊อบก็ได้นะอาทิตย์ละครั้งก็ได้ คือ… มันเป็นงานที่ฉันต้องการผู้ช่วยหนะ ต้องการคนที่ชอบเล่นดนตรีด้วย ยิ่งกีต้าร์เนี่ยเหมาะกับงานนี้มากเลย” นิ้วเรียวบางชี้ไปที่กีต้าร์ของอีกฝ่าย แล้วยิ้มหวานออกมา พอใจที่เห็นคนตรงหน้าตาโต และแสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“งาน?!” ร่างสูงทวนคำถามอีกรอบ

โอ้พระเจ้า! ท่านประทานนางฟ้ามาให้ผมหรือไงครับ! เมื่อกี้ไอคนตัวเล็กตรงหน้านี่ชวนเขาไปทำงานใช่ไหม โอ้เยส!

“อ อื้ม ที่โรงเรียนอนุบาล” อะไรนะ? โรงเรียนอนุบาล? หน้าอย่างเขาเนี่ยนะให้ไปทำงานที่โรงเรียนอนุบาล? ลาละ ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำหรอกนะ แต่แบบ บางทีแค่เขาเดินผ่านเด็กตัวเล็กๆ บางคนนี่ร้องไห้เลยนะ ก็รู้อยู่ว่าเขาทั้งตัวโต แถมหน้าก็มีหน้าเดียว = = ถึงในใจมันไม่อยากจะปฏิเสธก็เถอะ ยิ่งเห็นคนตรงหน้าที่คิดว่าเขาต้องเซเยสแน่ๆแล้วยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะถูกกับเด็กซักหน่อย ปฏิเสธไปแล้วกัน!

“ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบเด็ก นายไปหาคนใหม่ได้เลย ขอตัวนะ ราตรีสวัสดิ์”

พูดจบขายาวก็รีบเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดโดยไม่หันกลับมามองคนตัวเล็กซักนิด ที่ไม่หันกลับมามองเนี่ย กลัวว่าจะใจอ่อนต่างหาก มือหนากระชับมือที่จับกระเป๋ากีต้าร์แน่นๆ ก่อนจะพาตัวเองมาแอบยืนดูอีกฝ่ายอยู่ที่มุมๆหนึ่งที่เขาคิดว่าไอคนตัวเล็กคงมองไม่เห็นเขาแน่ๆ

ร่างบางมองตามแผ่นหลังกว้างไปจนสุดทาง ความเสียใจเริ่มก่อตัวขึ้นที่ขอบตาบาง เขาคิดแล้วว่าอีกฝ่ายต้องเป็นแบบนี้เขาเข้าใจอีกฝ่ายว่าผู้ชายตัวโตๆแบบคริสจะไปร้องเพลงให้เด็กๆฟังได้ยังไง อย่างเขาน่าจะเอาเวลานั้นไปจีบสาวดีกว่าใช่ไหม ไม่แน่อีกฝ่ายคงเห็นเขาเป็นคนแปลกหน้าเลยไม่อยากมาทำงานร่วมกับเขา แต่ก็ยังดีที่อีกฝ่ายไม่ขำเขา ร่างเล็กทรุดลงนั่งลงบนเก้าอี้ตัวยาวที่ตอนแรกคริสเป็นคนนั่ง

“เฮ้อ… งานแบบนี้ใครเขาอยากจะไปทำกันหละ”

ทอมนั่งก้มหน้ามองมือของตัวเองที่ถือหนังสือเล่มหนาไว้เพื่อกลั้นน้ำใสๆที่คลอรวมกันเป็นก้อนรออยู่ที่ขอบตา พยายามอย่างที่สุดเพื่อที่จะไม่ให้มันไหลออกมา ซึ่งทุกๆอย่างมันตกอยู่ในสายตาของคนตัวสูงทั้งหมด

Trrrrr.. Trrrrr..

มือบางข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงข้างที่ใส่โทรศัพท์เครื่องเล็กออกมา ตาสีสวยที่พร่าไปด้วยม่านน้ำตาทำให้มองไม่เห็นชื่อผู้ที่โทรเข้ามา ‘อาจจะมีเรื่องด่วนหรือป่าว’ มมือเรียวเลื่อนสไลด์ที่หน้าจอรับสายที่คนที่โทรมา

“ฮัลโหลครับ.. ทอมพูดครับ” เสียงหวานที่ติดสั่นเล็กๆพยายามทำมันปกติที่สุด

[ นี่ผมเอง สตีฟครับทอม ] สตีฟ? โทรมาทำไมดึกดื่นกันนะ

“ว่ายังไงครับ โทรมาดึกๆแบบนี้ทะเลาะอะไรกับโทนี่แน่ๆเลยใช่ไหมครับ?” ถามออกไปยั่งเชิงอีกฝ่าย ซึ่งก็ได้เสียงหัวเราะแห้งกลับมา

[แหะๆ  อ่า… อันนั้นไม่ใช่ประเด็นหลักที่ผมโทรมาหรอกครับ ผมเป็นห่วงนายนะทอม ให้ผมหาผู้ช่วยแทนไหม โทนี่ก็หามาให้หลายคนแล้วนายก็ไม่เอา ไม่ถูกใจหรอ? ]

“ฮ่าๆๆ ก็ประมาณนั้นแหละครับ ดูพวกเขาเกลียดเด็ก และก็… ”

ร่างบางเงีบยไปพักนึงก่อนจะพูดต่อ

“ที่จริงผมก็เจอแล้วหละครับ ไม่ต้องห่วงหรอก ผอ.คนนี้ไม่กล้าไล่ผมออกแน่ ผมทำงานมาเป็นสิบๆปีแล้วนะ ฮ่าๆ” ร่างบางหัวเราะเบาๆเพื่อให้คนปลายสายสบายใจมากขึ้น

[ ครับบบบบ งั้นพรุ่งนี้ผมจะไปดูหน้าคนที่นายเลือกหน่อย จะให้โทนี่สะแกนว่าโอเคไหม งั้นผมไม่กวนนายหละ ราตรีสวัสดิ์ครับผม ]

“ส สตีฟ… บ้าจริง” ร่างบางคอตกทันทีที่อีกฝ่ายวางสายไปดื้อแบบนี้ กำลังจะอ้าปากค้านแต่ดันไม่ทันเสียนี่ จะทำยังไงดีปละทีนี้ คริสก็ปฏิเสธไปแล้วด้วย คงต้องโดนไล่ออกจริงๆก็คราวนี้แหละ คิดหนักเลยทีนี้…

ร่างสูงที่แอบดูร่างบางอยู่รู้สึกได้ถึงความเศร้าที่คนตัวเล็กส่งออกมา มัน.. น่าเห็นใจ

“ฮึก…” บางปากเม้มเข้าหากันแน่นพยายามไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกไป เขาไม่อยากหางานใหม่ เขายอมเป็นครูที่ถูก ผอ.กดขี่ ดีกว่าต้องปล่อยให้เด็กตัวเล็กๆไปอยู่คนครูคนอื่น ก่อนหน้าที่เขาจะไปประจำที่โรงเรียนแห่งนี้ ร่างบางเห็นเด็กๆถูกตีอย่างน่าสงสาร ถ้าหากเขาไม่เข้าไปห้ามมีหวังเด็กคนนั้นอาจจะตายได้ โรงเรียนเกือบจะถูกสั่งปิดไป ครูคนนั้นเลยโดนสั่งพักงาน และห้ามรับราชการอีก เขาเลยได้รับหน้าที่มาดูแลเด็กๆแทน ตอนแรกเด็กๆก็กลัวเขา แต่พอๆนานๆเข้าเด็กๆก็เริ่มปรับตัวได้

เขาชอบเด็กๆทุกๆคน เขาทั้งรัก ทั้งห่วง เขากลัวว่าถ้าหากเขาถูกไล่ออกขึ้นมาจริงๆครูคนใหม่ที่อาจจะมาแทนที่เขาในอีกไม่นานอาจจะตีพวกเด็กๆก็ได้ ในตอนที่พวกเขาไม่เชื่อฟังพวกเราก็เหมือนครอบครัวใหญ่ ครอบครัวใหญ่ๆที่ถ้าหากขาดใครไปมันก็ดูไม่สมบูรณ์ เขาผูกพันกับเด็กๆ

แต่ไม่นานมานี้ ผอ.ที่ดูจะไม่ค่อยชอบหน้าเขาก็ให้ครูสาวสวยคนหนึ่งเอาสองสีน้ำตาลมาให้เขา เขารับมาก่อนที่จะกล่าวขอบคุณเธอ เมื่อเลิกงานขากลับบ้านเขาก็เปิดซองดู มันเป็นประกาศของทางกระทรวงที่เพิ่งออกกฎใหม่มา เขาอยากให้เด็กอนุบาลทุกคนมีเสียงเพลงเป็นการสื่อความหมายให้เด็กจดจำง่ายขึ้น เขาต้องการจะให้จ้างนักดนตรีคนหนึ่งมาไว้ประจำห้องของเด็กอนุบาลห้องต่างๆ ของเขาเป็นห้อง A3 ก็ไม่น่าจะหายากเท่าไหร่ในความคิดของเขาตอนแรก แต่พอไปชวนใครเขาก็ไม่อยากทำ จนมันจะครบกำหนดเวลาแล้ว ถ้าเขาไม่มีผู้ช่วย เขาก็คงต้องหางานใหม่…

“เอาเป็นว่า ฉันรับทำเป็นรายครั้งแล้วกัน ครั้งหละสามพันบาทขาดตัว” ร่างสูงที่แอบเดินมาอยู่ข้างๆร่างบางเอ่ยพูดขึ้นทำลายความเศร้าของคนตัวเล็กที่เริ่มก่อตัวมากขึ้นเรื่อยๆบนขอบตาบางนั่น

“อ เอ๋? ค คริส!” ร่างบางรีบปาดน้ำตาออกลวกๆ ก่อนจะรีบเด้งตัวเองขึ้นมายืนข้างหน้าอีกฝ่ายดีๆ เขาไม่อยากร้องไห้ให้ใครเห็นเลย แต่คริสดันเห็นไปเต็มสองตาอย่างนี้ คงมองว่าเขาขี้แยแน่ๆ แล้ว… คริสมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย เขาคงไม่ได้สนใจรอบๆข้างนี่เลยใช่ไหม

“เมื่อกี้… นายพูดว่าอะไรนะ แล้ว… นายไม่กลับบ้านหรอ?” ร่างบางเอ่ยปากถามออกไปอย่างงๆ อีกฝ่ายน่าจะกลับไปได้ซักพักแล้ว แต่ทำไมยังมาอยู่ที่นี่อีกหละ จะว่าทำงาน ก็ไม่น่าจะใช่ อีกใจก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าคริสอาจจะแอบดูเขาอยยู่หรือป่าว

“เผอิญนึกได้ว่าไม่ค่อยมีเงินเก็บมากเท่าไหร่ หางานเสริมทำคงไม่น่าเกลียดถูกไหมหละ” พูดโง่ๆออกไปเพียงเพราะเห็นน้ำตาอีกฝ่าย = = ให้ตายเถอะ ‘คริส เฮมสเวิร์ธ’

“แต่นายไม่อยากทำไม่ใช่หรอ?”

“ก็… ตอนนั้นพูดไม่คิด ยังไงก็… ขอโทษนะ ฉันมันก็… ปากเป็นแบบนี้แหละ ทำใจให้ชินสะนะ” ปากหยักยกยิ้มหล่อ

“สามพันต่อครั้ง? ไม่มีปัญหา” ร่างบางยิ้มกว้างออกมาแทบจะทันที ที่ร่างสูงยอมกลับมารับข้อเสนอของเขา ร่างบางกระโดดกอดอีกฝ่ายแน่นๆอย่างดีใจ เขาไม่เคยดีใจแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ ยิ่งคิดวงแขนเรียวบางก็ยิ่งกอดรัดอีกฝ่ายแน่นขึ้น ส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่ยืนแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก จะกอดตอบก็ใช่ทีเดี๋ยวเขาก็หาว่าเราไปลวนลาม โอยยย เย็นไว้ๆ -..-

“งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่นี่นะ ม้านั่งตรงนี้เลย เดี๋ยวผมจะมาแจกแจงรายละเอียดให้”

To Be Con…

งื้ออออ! นานๆจะเข้ามาอัพในนี้ที คอมที่บ้านก็เป็นอะไรไม่รู้ลงใน exteen ได้ แค่ลงในนี้ไม่ได้ TT ยังไงฝากติดตามกันด้วยนะครับ และก็ขอโทษด้วยจริงๆที่ทำให้ผู้อ่านทุกคนรอนาน TT

2 responses »

  1. ต่างคนต่างแย่ เลยนะคะเนี่ย…
    คริสยังจะหยิ่งอีก..แต่ก็นะไม่สบายใจ ก้ไม่ทำแค่นั้นเอง ดีอยู่
    ถ้าไม่มามองอยู่ เดิน ๆ ไปซะ คงไม่ต้องมาแพ้น้ำตาหรอก ฮ่าา ๆ สม..

    อยากเห็นภาพคริสไปนั่งจีบทอม ผิดดด ดีดกีตาร์ให้เด็ก ๆ ฟัง ไวไวจังเลยย
    รอตอนต่อไปคร๊าาาาา

    Like

  2. ฟิคใหม่น่ารักจุง คุณครูปฐมวัยกับนักดนตรี

    ทำไมคริสถึงโดนไล่ออกอยู่เรื่อย ทั้งที่งานดนตรีหรือหน้าตาก็โอเคอยู่นะ
    คงจะเป็นบุพเพอาละวาดให้มาเจอทอมแหงๆ

    ไปเล่นดนตรีให้เด็กๆ ฟังละกันนะคริส เฮมเวิร์ธ
    ตอนนี้ก็ครั้งละสามพันบาทขาดตัว ต่อไปอาจฟรีตลอดชีพก็ได้นะ question

    Like

Leave a comment